“Viral Marketing กลยุทธ์การตลาดสุดเจ๋ง ที่ไม่ควรมองข้าม”

Viral Marketing  กลยุทธ์การตลาดสุดเจ๋ง ที่ไม่ควรมองข้าม             Viral Marketing หรือ การทำตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) คือกลยุทธ์หรือวิธีส่งเสริมทางการตลาดที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในเวลานี้ Viral Marketing ได้สร้างการเติบโตทั้งในเรื่องแบรนด์สินค้า และยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องออกแรง           โดยวิธีการทำ Viral Marketing จะเริ่มจากการเลือกกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง และทำการส่งข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ การโฆษณาต่างๆ ไปยังคนกลุ่มนี้ เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งต่อทวีคูณ เกิดการแพร่กระจายไปเรื่อยๆ เหมือนลักษณะของไวรัส ที่ใช้หลักการเสมือนโรคติดต่อ ที่จะแพร่จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งหรืออีกหลายๆคน ซึ่งยิ่งแพร่เชื้อไปกว้างมากขึ้นเท่าไร ก็จะทำให้การสื่อสารทรงประสิทธิภาพมากเท่านั้น                วันนี้เรามีเทคนิคดีๆในการทำ Viral Marketing มาฝากกัน โดยเริ่มจากการทำให้คนที่ดูต้องรู้สึกหรือมีปฏิกิริยาอะไรบางอย่างต่อสารที่เราได้ส่งออกไป ฉะนั้น “สารจะต้องมีพลังและมีความชัดเจน”…

“ธุรกิจสร้างรายได้ จากเว็บไซต์ ”

ธุรกิจสร้างรายได้ จากเว็บไซต์         ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่า เว็บไซต์ได้เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจเป็นจำนวนไม่น้อย บริษัททั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างนำมาใช้ จนเป็นแนวทางที่ดีในการดำเนินธุรกิจ  เพราะเว็บไซต์ได้กลายเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร และยังได้กลายเป็นโลกแห่งการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าไปแล้ว นอกจากนี้ เรื่องกระแสความนิยมของ Social Media ในปัจจุบัน ก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนความคิดที่ว่า เว็บไซต์มีความสำคัญกับการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคน จะต้องใส่ใจรายละเอียด ในเรื่องการออกแบบเว็บไซต์ ให้มีความน่าสนใจ         เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายในการออกแบบที่ผู้ประกอบการจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน ว่าต้องการทำเว็บไซต์เพื่ออะไร อย่างเช่น เว็บไซต์ ซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า ภาพรวมของเว็บไซต์ควรน่าเชื่อถือ ใช้งานได้สะดวกสบายและมีเนื้อหาที่ชัดเจน     เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป้าหมายจะช่วยกำหนดกรอบและรายละเอียดในส่วนอื่นๆให้ชัดเจนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้ัน การกำหนดเนื้อหาของเว็บไซต์ จะต้องถูกต้องครบถ้วน เป็นปัจจุบันและตรงกับความต้องการของผู้ที่เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์             สิ่งที่ดึงดูดใจคน อย่าง ภาพและกราฟิก ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกันเพราะเป็นสีสันและสามารถดึงดูดความสนใจให้กับผู้ที่พบเห็น เช่น การนำวีดีโอแนะนำเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของบริษัท  ก็จะยิ่งสร้างความโดดเด่นและความน่าเชื่อถือต่อธุรกิจมากขึ้น ความสวยงามที่เกิดจากการตกแต่งและการจัดวางเลย์เอ้าท์ให้เป็นไปในทางเดียวกัน เป็นสิ่งที่ห้ามละเลยเด็ดขาด เพราะโครงสร้างหน้าเว็บควรมีสัดส่วนที่สมดุล กลมกลืน สนับสนุนซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับเว็บไซต์เพื่อดึงดูดความสนใจจากบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการใช้เป็นช่องทางการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ…

“สุดทึ่ง! รีวิวของเล่นใน Youtube โกยค่าโฆษณาสูงสุดในปี2014”

 สุดทึ่ง! รีวิวของเล่นใน Youtube โกยค่าโฆษณาสูงสุดในปี2014        เจ้าของบัญชี DC Toy Collectors คือบัญชี YouTube ที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 2014 จากโฆษณาที่แทรกในคลิปวิดีโอรีวิวและแกะกล่องของเล่นเพื่อให้ผู้ชมตัดสินใจก่อนซื้อหรือเพิ่มความอยากได้จากนักสะสม โดยได้เงินแล้วกว่า 148 ล้านบาท มีข้อมูลจากบริษัท OpenSlate เป็นผู้วิเคราะห์สถิติการสร้างรายได้จากคลิปวิดีโอในโลกออนไลน์ เผยว่า ผู้ใช้ที่ชื่อ DC Toy Collectors คือบัญชียูทูบ (YouTube) ที่มีรายได้สูงสุดประจำปี 2014         จากโฆษณาที่แทรกในคลิปวิดีโอรีวิวและแกะกล่องของเล่น เพื่อให้ผู้ชมตัดสินใจก่อนซื้อ หรือเพิ่มความอยากได้จากนักสะสมด้วยกันเอง นักสะสมของเล่นเจ้าของบัญชีปริศนา ผู้ไม่เคยเผยให้ใครเห็นหน้าตาของเธอรายนี้ สามารถสร้างรายได้จาก YouTube ได้มากที่สุดในโลก ด้วยการอัพโหลดวิดีโอรีวิวของเล่น กระทั่งโกยเงินไปได้มากกว่า 148 ล้านบาท         โดยเจ้าของบัญชีปริศนาผู้ที่ไม่เคยเผยให้ใครเห็นหน้าตาของเธอรายนี้ สามารถสร้างรายได้จาก YouTube ได้มากที่สุดในโลก…

“Copy Writer ต่อมสร้างสรรค์ ปะทะไอเดียที่ไม่รู้จบ”

Copy Writer ต่อมสร้างสรรค์ ปะทะไอเดียที่ไม่รู้จบ             คำพูด หรือ ข้อความ ที่เราได้รับชมจากโฆษณาผ่านทางสื่อต่างๆจนคุ้นหูคุ้นตาเรา เบื้องหลังของสิ่งเหล่านี้ เป็นหน้าที่หลักของ Copywriter หรือคนที่เขียนคำโฆษณาที่ไม่ใช่แค่เขียนให้ดูดี ดูสวยเพียงเท่านั้น แต่ต้องเป็นคำที่ได้จากความคิดที่สร้างสรรค์ มาจากคอนเซ็ปต์ของงานเพื่อให้โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด โดยทุกคำที่เขียนต้องมั่นใจได้ว่าน่าสนใจ ชวนติดตามและเป็นสิ่งที่สร้างเอฟเฟคให้กับผู้คนได้อย่างรวดเร็ว            Copywriter นั้น แตกต่างจาก สคริปไรท์เตอร์ (Script Writer) หรือคนเขียนสารคดีรายการต่างๆ เพราะรูปประโยคหรือคำพูดของคนคิดคำโฆษณาจะต้อง สั้น กระชับ จับใจ ชนิดที่ว่าพูดคำเดียวตีหัวเข้าบ้านได้เลย โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นวรรคทอง มีประโยคคล้องจองเหมือนสุนทรภู่ แต่ต้องรู้จังหวะการมาของมันและใส่มันเข้าไปในเวลาที่ใช่ก็เท่านั้นเอง และแน่นอนว่าคำเหล่านั้นต้องผ่านการคิดจนเลือดตาแทบกระเด็นหรือบางทีมันก็ตกลงมาใส่กบาลเราง่ายๆเสียอย่างงั้น Copywriter จึงมีหน้าที่ในการลงรายละเอียดเกี่ยวกับประโยคและคำทุกคำที่อยู่ในสื่อโฆษณาทุกสื่อ โดยธรรมชาติของคนทำตำแหน่งนี้ ต้องอาศัยการเป็นคนหูตาซุกซน ชอบอ่าน ชอบจำ มี ‘คลังคำ’ ส่วนตัวมากมาย      …

“ผ่าแผนการวิเคราะห์ธุรกิจ SME สูตรสำเร็จทางการตลาด”

ผ่าแผนการวิเคราะห์ธุรกิจ SME สูตรสำเร็จทางการตลาด          ในขณะที่กำลังดำเนินการจัดทำแผนธุรกิจหรือหลังดำเนินการจัดทำแผนธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ทำธุรกิจควรต้องมีการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจควบคู่ไปด้วย เพราะแผนธุรกิจที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ ในการนำมาปฏิบัติได้จริง    จึงจะเกิดประโยชน์คุ้มค่าในการดำเนินการจัดทำแผนดังกล่าว           การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจ ผู้ทำธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมีความรู้และประสบการณ์เฉพาะด้านเป็นอย่างดีหรืออาจให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านรับผิดชอบแผนย่อยๆของธุรกิจ โดยวิเคราะห์แผนการตลาด แผนการจัดการ แผนบุคลากร แผนการผลิต แผนการเงิน แผนดำเนินการ รวมทั้งแผนฉุกเฉินด้วย เพราะความเป็นไปได้สำหรับแผนย่อยๆแต่ละแผน ต้องอาศัยหลักการประเมินความเป็นไปได้ที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ในแผนธุรกิจ SMEs  ความถูกต้องน่าเชื่อถือของข้อมูลพื้นฐาน           ทุกธุรกิจจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลที่นำมาใช้ในการกำหนดแผนว่ามีความเที่ยงตรงหรือเบี่ยงเบนเพียงใด เพราะถ้าเกิดความเบี่ยงเบนตั้งแต่จุดเริ่มต้น สิ่งที่จะถูกกำหนดขึ้นตามมาก็จะคลาดเคลื่อนและห่างไกลความเป็นจริงในแผนทั้งหมด เช่นการได้ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งขันมาอย่างไม่ถูกต้อง     ก็ทำให้เราประเมินความสามารถของคู่แข่งขันผิดไป ผลที่ตามมาคืออาจทำให้เราประมาทคู่แข่งขัน หรือใช้กลยุทธ์ที่ผิดทางไปก็เป็นได้ ดังนั้นในการวิเคราะห์ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างถูกต้อง และข้อมูลจะต้องมีความทันสมัยไม่ทำให้เกิดความผิดเพี้ยนของข้อมูลได้ ต่อมาก็คือการวิเคราะห์เกี่ยวกับแผนที่กำหนดขึ้น  ความสามารถขององค์กรทางด้านการตลาด          พิจารณาวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ว่าธุรกิจที่กำลังจะเดินเข้าไปหรือกำลังดำเนินกิจกรรมอยู่นั้น อยู่ในระยะวงจรชีวิตที่มีอนาคตต่อไปหรือไม่ หากอยู่ในระยะวงจรชีวิตที่กำลังถดถอยหรืออิ่มตัวแล้วก็ถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่ทำแล้วไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน…